รีโนเวทบ้าน สร้างเงินจากบ้านมือสอง
renovate
ในปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นซื้อคอนโดปล่อยเช่า ซื้อบ้านมือสองมารีโนเวทปล่อยเช่าหรือขาย เพราะเป็นการนำเงินออมมาเพิ่มกำไร แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนทุกอย่าง มีความเสี่ยงเราจึงรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นไว้ในบทความนี้ ตามมาดูกันนะคะ

Date

การเลือกที่อยู่อาศัยของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนต้องการบ้านเป็นที่พักผ่อน หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน จากกิจกรรมนอกบ้าน บางคนชอบบ้านจัดสรรตามหมู่บ้าน บางคนรักความเป็นส่วนตัวชอบอยู่คอนโด บางคนเลือกบ้านมือสองเพราะชอบที่ได้รีโนเวทบ้านตกแต่งในแบบที่ชอบ และอย่างหลังนี้กำลังเป็นที่สนใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ การซื้อบ้านมือสองอาจจะมีได้หลายปัจจัย เช่น ราคาถูก ทำเลที่ตั้ง ชอบออกแบบบ้านของตัวเอง ก็จะสามารถเลือกวัสดุ ดีไซน์ได้ตรงความต้องการของตัวเอง หรือ ซื้อมารีโนเวทขายต่อ เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่มรายได้อย่างดี

สื่อออนไลน์ ทั้ง Facebook YouTube หรือแม้แต่ TikTok ในปัจจุบันมีส่วนช่วยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างมาก ด้วยความที่สื่อเหล่านี้สามารถเล่าเรื่องผ่านคลิปวีดีโอ หรือแม้แต่เป็นการ Live ช่วยให้ผู้ขาย Present ผลงานการออกแบบ การรีโนเวท การเลือกวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในบ้าน ทำให้ผู้ซื้อสามารถเห็นรายละเอียดของบ้าน ก่อนตัดสินใจมาดูสถานที่จริง

renovate
ภาพจาก poolvillaphuket.live

ขั้นตอนการซื้อบ้านมือสองเพื่อรีโนเวท

การเลือกซื้อบ้านบ้านมือสอง ส่วนใหญ่นักลงทุนจะหาบ้านมือสองที่ธนาคารปล่อยขาย เพราะมีราคาถูกกว่าเจ้าของบ้าน หรือนายหน้าขายเอง โดยคำนึงถึงปัจจัยดังนี้

  • สิ่งอำนวยความสะดวก การพิจารณาเลือกบ้านที่จะมาทำการรีโนเวท ควรอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวก การเดินทางสะดวกไม่ว่าจะรถประจำทาง รถส่วนตัว หรือ BTS สิ่งแวดล้อมรอบๆ บ้านควรมีความปลอดภัย เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านได้
  • สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมรอบตัวบ้าน สภาพแวดล้อมในโครงการ หรือบ้านใกล้เรือนเคียงของบ้านหลังนั้น เราสามารถเปลี่ยนสภาพบ้านให้สวยในแบบที่เราต้องการได้ แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติ หรือ สภาพแวดล้อมรอบๆ บ้านได้ แนะนำให้ไปดูสภาพแวดล้อมทั้งตอนกลางวัน และ ตอนกลางคืน พูดคุยกับเพื่อนบ้าน หรือคนในระแวกบ้านเพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • โครงสร้างบ้าน ผู้ซื้อก็เน้นดูไปที่โครงสร้างตัวบ้าน ยังแข็งแรงดีไหม บ้านมีการทรุดไหม มีรอยแตกร้าว ชำรุดของเหล็กโครงสร้างไหม ถ้าโครงสร้างยังแข็งแรง เราก็สามารถรีโนเวทบ้านหลังนั้นออกมาได้ดีและ ยังได้ราคา แต่ถ้าบ้านโครงสร้างไม่ดีแล้ว การรีโนเวทก็ยาก เกิดอนาคตตัวบ้านมีปัญหา อาจจะทำให้ผู้ขายได้รับผลกระทบด้านความน่าเชื่อถือโดยตรงก็เป็นได้

 

เมื่อเลือกซื้อบ้านกันได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนต่อไป เป็นหัวใจของการซื้อบ้านมือสองเลยทีเดียว นั้นคือ

  • ประเมินการออกแบบการรีโนเวท เมื่อได้บ้านแล้วเราก็ต้องมาคิดออกแบบบ้าน ว่าจะให้บ้านหลังนี้ออกมาในสไตล์ไหน จะรีโนเวทตรงไหนก่อน ขึ้นอยู่ที่ผู้ซื้อต้องการให้บ้านนั้นออกมาแบบไหน บางครั้งตัวบ้านนั้น ยังดูใหม่อยู่ ระบบน้ำ ไฟ ยังใช้งานได้ดี ก็อาจจะรีโนเวทแค่นิดหน่อย เช่น เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ บานประตู บานหน้าต่าง กุญแจบ้าน ประตู สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ทาสีภายนอก ภายใน ติดตั้งวอลเปเปอร์ใหม่ หรือต้องการ รีโนเวททั้งหลัง คือการเหลือไว้แต่เพียงโครงสร้างต้องอาศัยการแก้ไขมากขึ้น อาจจะเนื่องมาจากตัวบ้านเดิมไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เช่น วางระบบน้ำใหม่ วางระบบไฟใหม่ ระบบท่อต่างๆ ภายในตัวบ้าน รวมไปถึง การทำห้องครัว ห้องน้ำ ใหม่อีกเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ซื้อเอง
  • ประเมินราคาค่าใช้จ่าย (ต้นทุน) ได้ตัวบ้านแล้ว ได้แบบที่ต้องการรีโนเวทแล้ว ก็มาถึงการประเมินค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มาประเมินค่าช่าง ค่าก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มเติม แต่ต้องประเมินราคา + ไว้เสมอ จะได้สามารถคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงได้
    • ราคาตัวบ้าน รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าโอน ค่าประกัน ค่านิติ ค่าน้ำ ค่าไฟ กรณีเจ้าของบ้านเก่ามีการค้างจ่ายไว้
    • ราคาค่าออกแบบ (กรณีที่ต้องจ้างสถาปนิก) โดยส่วนมากมักจะคิดจากเปอร์เซ็นของค่าก่อสร้าง โดยประมาณที่ 5-15% หรือคิดตามพื้นที่ใช้สอยเป็นตารางเมตร
    • ค่าก่อสร้าง ค่าช่างผู้รับเหมา เลือกผู้รับเหมาให้เหมาะสมกับเราและตัวงาน ถ้าเราเป็นคนมีเวลาน้อย อาจจะใช้ผู้รับเหมาที่เป็นบริษัท ทำให้ไม่ต้องเข้าไปเช็คตรวจหน้างานบ่อยๆ ทางบริษัทจะมีทีมงาน มีคนดูแล และรายงานความคืนหน้าของการทำงานให้เราตลอด แต่ก็แรกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หรือ สามารถคุมงานเองได้ ก็เลือกเป็นผู้รับเหมาด้วยตัวเอง อาจจะต้องศึกษาข้อมูลช่าง ข้อมูลวัสดุต่างๆ เพิ่มขึ้นหน่อย แต่ก็ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีก

 

สไตล์การรีโนเวทบ้านมือสองที่ได้รับความนิยม รีโนเวทสไตล์มินิมอล สไตล์ญี่ปุ่น การตกแต่งบ้านสไตล์นี้ จะเน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอย พื้นที่จัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูกว้างขวาง โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เน้นคุมโทนสีของบ้าน การตกแต่งบ้านญี่ปุ่นด้วย ของน้อยชิ้น แต่มากฟังก์ชั่น บ้านสไตล์ญี่ปุ่นมักจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยเยอะ ต่างจากบ้านของคนไทยส่วนใหญ่ที่มักจะมีข้าวของและเฟอร์นิเจอร์เพียบ ดังนั้นถ้าหากใครจะตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ให้คำนึงถึงการใช้งานเอาเป็นหลัก โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ดีไซน์เรียบง่าย ดีเทลไม่เยอะ และใช้วัสดุจากธรรมชาติ ส่วนการจัดวางก็พยายามให้อยู่เป็นกลุ่ม ไม่กระจาย มีที่ว่างสำหรับทางเดิน เช่น จัดเข้ามุมหรือวางชิดผนัง เท่านี้ก็จะช่วยให้บ้านมีความมินิมอลแบบญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ แล้วค่ะ

renovate
ภาพจาก nakatayuichiandrie/houzz

การออกแบบโดยให้ความสำคัญกับธรรมชาติ เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติมาก จึงมักจะนำไม้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบและตกแต่งเสมอ ไม่ว่าจะด้านโครงสร้างที่มักจะใช้ไม้ทำพื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง หรือด้านการตกแต่งที่มักจะใช้ไม้ทำฉากกั้น เฟอร์นิเจอร์ และของกระจุกกระจิก โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ในบ้านบ่อย ๆ ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้เมเปิ้ล ไม้ฮิโนกิ ไม้เฮมล็อก ไม้สนแดง

renovate
ภาพจาก Freedom

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการรีโนเวทบ้าน นึกถึง Inspace นะคะ

บริษัท อินสเปซ เดคคอเรชั่น จำกัด เป็นผู้จำหน่ายไม้ บริการติดตั้งพื้นไม้ และบริการตกแต่งภายในบ้าน ที่อยู่อาศัย คอนโด โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย “ถือแบบมา ปรึกษาเรา” เรารับผลิตตามแบบที่ลูกค้าต้องการ พร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี “ใส่ใจทุกงาน เพื่อบ้านในฝันของคุณ”

แวะชมผลงานได้ที่ :: Renovate – Inspace Decoration : พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ 


Cr. Baanfinder, ddproperty

More
articles & Blog

CALL US TO START CREATING YOUR DREAM HOME